เนื่องในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ เป็นวันโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังโลก (World COPD Day) ฟิลิปส์ร่วมรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับ “โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง” โรคที่ยังไม่มีทางรักษาและหลายคนยังไม่เคยรู้ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังผ่านเรื่องราวของ “รัสเซล วินวู๊ด”
กรุงเทพฯ ประเทศไทย - รอยัล ฟิลิปส์ (NYSE: PHG, AEX: PHIA) ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ จับมือกับมูลนิธิโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD Foundation) ร่วมรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับที่ 4 ของคนทั่วโลก และคาดการณ์ว่าจะขยับขึ้นเป็นอันดับ 3 ภายในปี 20201 และคร่าชีวิตผู้คนกว่า 3 ล้านคนต่อปี2 พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังผ่านเรื่องราวของ “รัสเซล วินวู๊ด” นักกีฬาชาวออสเตรเลีย วัย 49 ปี ผู้ที่ต่อสู้กับโรคอย่างเข้มแข็ง
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือโรคซีโอพีดี (COPD: Chronic Obstructive Pulmonary Disease) เป็นโรคที่พบมาก แต่ปัจจุบัน ประชาชนจำนวนมากยังขาดความตระหนัก และความเข้าใจเกี่ยวกับโรคดังกล่าว ซึ่งมีการคาดการณ์ว่ามีจำนวนผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังมากกว่า 210 ล้านรายทั่วโลก แต่ยังมีผู้ป่วยเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่ได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง3 สำหรับประเทศไทย พบผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังมากขึ้นทุกปี จากสถิติพบว่าอัตราการเสียชีวิตของคนไทยจากโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังเพิ่มขึ้นถึง 1.3 เท่า ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา โดยอัตราการเสียชีวิตจากโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังมีถึง 40 คนต่อประชากร 100,000 คน4 ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากการสูบบุหรี่ จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขพบว่าร้อยละ 90 ของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ นอกจากนี้ อาจพบสาเหตุจากมลพิษทางอากาศ การหายใจเอาละอองสารเคมีบางอย่างเป็นปริมาณมากและติดต่อกันเป็นเวลานานๆ และพันธุกรรมได้อีกด้วย
ผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังมักมีอาการหายใจลำบาก เหนื่อยง่าย ไอเรื้อรัง มีเสมหะมาก หรืออาจมีอาการหายใจเสียงดังวี๊ดๆ หรือรู้สึกเจ็บหน้าอกร่วมด้วยได้ สำหรับโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังยังไม่มีแนวทางการรักษาที่แน่ชัด สามารถทำได้เพียงการรักษาแบบประคับประคองตามอาการและชะลอความก้าวหน้าของโรคได้เท่านั้น ดังนั้น วิธีการดูแลผู้ป่วยอย่างมีคุณภาพเพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตและดำเนินชีวิตประจำวันได้ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้อาการของโรคเลวร้ายลง
เพียงหกเดือนหลังจากวันที่ รัสเซล เข้ารับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เขาสามารถพิชิตการแข่งไตรกีฬารายการ The IRONMAN ได้สำเร็จ และยังคงเข้าแข่งขันไตรกีฬารอบโลก เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ป่วยทุกคนเห็นว่าการป่วยเป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังนั้น ไม่จำเป็นต้องทำให้คุณหยุดการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ โดย รัสเซลยังได้แชร์ 4 ข้อควรรู้เกี่ยวกับโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เพื่อหวังว่าจะช่วยให้ความรู้และเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยคนอื่นๆ
- มีความเข้าใจต่อโรค: ผู้ป่วยควรมีความเข้าใจเกี่ยวกับโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังอย่างชัดเจน โดยผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ที่ให้การรักษาอย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนการดูแลและปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง
- เข้าใจทางเลือกการรักษา: ถึงแม้ว่าโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ยังมีอีกหลากหลายแนวทางในการรักษาอาการของโรค และชะลอความก้าวหน้าของโรคได้ อาทิ การใช้ยารักษาอาการต่างๆ การใช้เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (PAP) การใช้เครื่องผลิตออกซิเจนแบบพกพา หรือการใช้เครื่องช่วยหายใจ เพื่อช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น ซึ่งจากการศึกษาพบว่าหากผู้ป่วยมีความเข้าใจเกี่ยวกับทางเลือกการรักษาอย่างถูกต้อง จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น
- มีโภชนาการที่ดี: ผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ตามหลักโภชนาการ เพราะการรับประทานอาหารที่ไม่ดีนั้นจะส่งผลโดยตรงกับร่างกายผู้ป่วยและอาจจะทำให้อาการแย่ลงได้ เช่น การเลือกรับประทานอาหารที่ให้โปรตีน วิตามินสูง ผัก ผลไม้สด และอาหารที่มีเส้นใยสูง เป็นต้น อาหารที่ถูกหลักโภชนาการมีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยหายใจได้ดีขึ้น
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายสามารถช่วยเพิ่มระดับความแข็งแรงของปอดและหัวใจได้ ด้วยการเสริมสร้างกล้ามเนื้อมัดใหญ่ภายในร่างกาย และเพิ่มอัตราการไหลเวียนโลหิตให้ดีขึ้น